บทสัมภาษณ์พิเศษ Informa Markets Thailand × NC Network Asia
บทสัมภาษณ์บุคคลสำคัญผู้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการผลิตของไทย
อนาคตที่ INTERMACH จะเปิดทาง และความคาดหวังต่อบริษัทญี่ปุ่น

Informa Markets Thailand คือผู้จัดงานแสดงเทคโนโลยีอุตสาหกรรมและการผลิตขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน “INTERMACH” เราได้พูดคุยกับคุณซันไชย หนุ่มบุนนำ หัวหน้าขององค์กรเกี่ยวกับมุมมองของตลาดไทย ไฮไลต์ของ INTERMACH 2025 และแนวทางความร่วมมือกับบริษัทญี่ปุ่น ในตลาดที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วเช่นนี้ อะไรคือสิ่งที่จำเป็นในตอนนี้ เรามาร่วมหาคำตอบกัน
▶ มองภาพรวมตลาดไทยช่วงหลังเป็นอย่างไรบ้าง
หลังยุคโควิด ตลาดไทยมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาและการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรม การนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า (EV) และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกันนั้นก็มีความต้องการยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพของระบบการผลิต ส่งผลให้ทั้งอุตสาหกรรมมาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญ
รัฐบาลไทยเองก็ให้การสนับสนุนเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างจริงจัง ในอุตสาหกรรมยานยนต์ เราเห็นการผสานกันระหว่างรถยนต์น้ำมัน ไฮบริด และ EV และคาดว่าไฮโดรเจนจะมีบทบาทมากขึ้นในอนาคต ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล การยกระดับมาตรฐานการผลิตและนวัตกรรมจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียที่ต้องมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ประเทศไทยซึ่งอยู่ศูนย์กลางของการเปลี่ยนแปลงนี้ หากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและมีการปรับตัวของภาคอุตสาหกรรม ก็จะยิ่งเสริมสร้างศักยภาพของตลาด และเพิ่มอิทธิพลในระดับสากลได้มากขึ้น
▶ INTERMACH มีบทบาทอย่างไร
เป้าหมายของ INTERMACH คือสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตของไทย โดยส่งเสริมการนำเทคโนโลยีล่าสุดมาใช้ โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ (Automation) และหุ่นยนต์ (Robotics) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการผลิต นอกจากนี้เราทำงานร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมหลักเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ และยังจัดสัมมนาและเวิร์กชอปที่ครอบคลุมมาตรฐานการผลิตและแนวโน้มเทคโนโลยีล่าสุด เพื่อพัฒนาทักษะของผู้เข้าร่วมงาน การเตรียมความพร้อมให้สามารถรองรับมาตรฐานที่เข้มงวดของตลาดยุโรปได้ สิ่งที่สำคัญคือการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจการผลิต
INTERMACH ไม่เพียงแต่เปิดประตูสู่เทคโนโลยีล้ำสมัย แต่ยังส่งเสริมการสร้างเครือข่ายธุรกิจและพัฒนาทรัพยากรบุคคล วางรากฐานสู่ความสำเร็จในยุคดิจิทัลและการแข่งขันระดับโลก ทั้งบริษัทขนาดใหญ่และ SMEs จะสามารถใช้เวทีนี้เป็นโอกาสในการขยายธุรกิจได้
▶ ไฮไลต์สำคัญของปีนี้มีอะไรบ้าง
ปีนี้เราจะเน้นนำเสนอเทคโนโลยีล่าสุดในภาคการผลิตอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ พร้อมจัดพื้นที่สาธิตให้เห็นว่าการใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตและคุณภาพสินค้าได้อย่างไร และยังมีโซนพิเศษแสดงการใช้ Big Data และ IoT ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ได้รับความสนใจในช่วงหลัง รวมถึง “Cybersecurity Zone” ที่จัดตั้งขึ้นใหม่ โดยหยิบยกกิจกรรมและประเด็นเกี่ยวกับการรักษาข้อมูลที่หน้างานการผลิต งานปีนี้จึงเต็มไปด้วยโปรแกรมหลากหลาย ที่มุ่งเน้นนำเสนอความรู้และแนวคิดใหม่ ๆ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการผลิต
▶ การจัดงานร่วมกับอีเวนต์อื่นเป็นอย่างไร
เรากำลังเสริมความร่วมมือกับสมาคมไทยซับคอน ซึ่งจัดงาน Subcon Thailand และกับทาง NC Network ซึ่งจัด FBC ASEAN และ BOI (สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน) โดยที่ Subcon Thailand เป็นงานจับคู่ธุรกิจที่เน้นผู้ผลิตชิ้นส่วน ช่วยให้ SMEs หาคู่ค้ารายใหม่ ๆ โดยปีนี้คาดว่าจะมีการเจรจาธุรกิจถึง 8,000 คู่ ขณะที่ FBC ASEAN เป็นโซนที่เน้นบริษัทญี่ปุ่นด้านการผลิตแบบรับจ้าง ซึ่งมีหลายบริษัทชั้นนำจากญี่ปุ่นเข้าร่วมแสดง
ด้วยการสนับสนุนจาก BOI (สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน) ผู้ซื้อจากต่างประเทศเข้าร่วมเพิ่มขึ้นทุกปี ปีนี้จะมีผู้ประกอบการจากกว่า 8 ประเทศเข้าร่วม รวมถึง 20 บริษัทที่ BOI เชิญโดยเฉพาะ ความร่วมมือหลากหลายเหล่านี้จะสร้างพลังเสริมซึ่งกันและกัน ทำให้งาน INTERMACH 2025 พัฒนาเป็นเวทีสนับสนุนอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น
▶ ความคาดหวังที่มีต่อบริษัทญี่ปุ่น
เทคโนโลยีขั้นสูงของญี่ปุ่นสามารถมีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่อุตสาหกรรมการผลิตของไทยกำลังเผชิญอยู่ โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีไฮบริด พลังงานไฮโดรเจน และระบบจัดการข้อมูลด้วย AI ที่ต้องอาศัยทักษะเฉพาะทางในอนาคต เพื่อให้เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกนำมาใช้อย่างเหมาะสม ผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเข้าใจและใช้งานระบบใหม่ได้อย่างถูกต้อง การร่วมมือกันระหว่างไทยและญี่ปุ่นในการจัดฝึกอบรมและสัมมนาน่าจะช่วยแลกเปลี่ยนความรู้และทำให้การนำเทคโนโลยีมาใช้เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาทรัพยากรบุคคลผ่านความร่วมมือนี้ ไม่เพียงแต่เพิ่มมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมไทย แต่ยังช่วยให้สามารถปรับตัวเข้ากับตลาดยุคดิจิทัล และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนได้
เทคโนโลยีของญี่ปุ่นไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่ยังนำมาใช้ในสาขาอื่น เช่น การผลิตชิ้นส่วนหลัก (Mid-device) หรือพลาสติกรีไซเคิล ซึ่งจะยิ่งส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยได้รวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ ความรู้ด้านการบริหารนิคมอุตสาหกรรม และการพัฒนาคนที่บริษัทญี่ปุ่นสั่งสมมาก็เป็นจุดแข็งสำคัญ การแบ่งปันองค์ความรู้นี้จะช่วยเสริมศักยภาพการแข่งขันในระดับโลก และสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสู่การขยายสู่ตลาดต่างประเทศได้ ความร่วมมือระหว่างไทยและญี่ปุ่นจึงไม่ได้หยุดแค่การถ่ายทอดเทคโนโลยี แต่ยังเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และจะช่วยสร้างความไว้วางใจที่มั่นคงเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
▶ อยากฝากอะไรถึง FBC ASEAN บ้าง
FBC ASEAN มอบคุณค่าเกินความคาดหมายทุกปี ไม่เพียงแค่แนะนำเทคโนโลยีล้ำสมัย แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพในการเชื่อมโยงเครือข่ายและสร้างสายสัมพันธ์ในอุตสาหกรรม
ผู้นำและผู้ประกอบการจากหลายภาคส่วนมารวมตัวกัน สร้างความร่วมมือแน่นแฟ้น เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ และความร่วมมือใหม่ ๆ ผ่านการเข้าร่วมงาน ผู้แสดงสินค้าจะได้สัมผัสถึงคุณค่าของเครือข่ายธุรกิจที่ NC Network สั่งสมไว้ เราหวังว่าพลาตฟอร์มนี้จะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และช่วยผลักดันการเติบโตของทั้งอุตสาหกรรมได้อย่างแข็งแกร่ง