ซีพีเปิดศูนย์ข้อมูลทรู IDC ภายใต้เครือของตน

　True Internet Data Center (True IDC) ในเครือของกลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ซึ่งดำเนินธุรกิจศูนย์ข้อมูล (DC) และอื่น ๆ ได้ประกาศเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ว่าได้เริ่มเปิดดำเนินการ "Giga Data Center" ศูนย์ข้อมูล AI ไฮเปอร์สเกลแห่งแรกของประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ที่กรุงเทพมหานคร
　Data Center แห่งนี้มีความจุไฟฟ้ามากกว่า 20 เมกะวัตต์ และรองรับการประมวลผล AI ด้วย GPU ประสิทธิภาพสูง โดยมีจุดเด่นด้านการออกแบบที่ผสานการใช้ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวและกลไกสำรองหลายชั้น ทำให้สามารถรักษาประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการทำงานที่เสถียรได้ ในยุคที่การใช้งาน AI และคลาวด์เติบโตอย่างรวดเร็ว ศูนย์นี้ได้รับความสนใจในฐานะโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลระดับชาติที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ประเทศ
　คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ซีอีโอกลุ่มซีพี กล่าวถึง Giga Data Center ว่า "ศูนย์แห่งนี้จะเป็นรากฐานสำคัญในการเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย เพื่อก้าวสู่อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย AI" พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงการขยายการเข้าถึงเทคโนโลยี AI และคลาวด์ ตลอดจนการถ่ายทอดความรู้เพื่อพัฒนาบุคลากร
　นายนายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ของไทย กล่าวว่า "การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไฮเปอร์สเกลโดยภาคเอกชนครั้งนี้ ถือเป็นก้าวประวัติศาสตร์ และจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการผลักดันประเทศไทยให้ก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาค" พร้อมแสดงความยินดีต่อโครงการดังกล่าว
　Giga Data Center จะมีบทบาทเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักในการสนับสนุนอุตสาหกรรม S-Curve ใหม่ เช่น รถยนต์ไฟฟ้า (EV), ดิจิทัลเฮลธ์, เกษตรอัจฉริยะ, ฟินเทค และคอนเทนต์ดิจิทัล ในอนาคต

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย นายมาริษ เสงียมพงษ์กล่าวสุนทรพจน์ในงาน Nikkei Forum

　เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ที่กรุงโตเกียว นายมาริษ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้ขึ้นเวทีในงาน Nikkei Furum "อนาคตเอเชีย" โดยเน้นย้ำว่าท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยืดเยื้อ การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในเอเชียและการรักษาระบบการค้าเสรีพหุภาคีเป็นสิ่งจำเป็น เขากล่าวว่า "ในยุคที่ความไม่แน่นอนกลายเป็นเรื่องปกติใหม่ การเติบโตของเอเชียต้องอาศัยการค้าและการลงทุน ห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่น พลังงานสีเขียว การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล และการเติบโตที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง" พร้อมเน้นย้ำถึงความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนของภูมิภาค
　นายมาริษ ยังได้แสดงมุมมองว่า เศรษฐกิจดิจิทัลของอาเซียนจะขยายตัวจนมีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2030 พร้อมประกาศแผนการพัฒนาบุคลากรกว่า 200,000 คนในสาขาเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น AI, รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และเซมิคอนดักเตอร์ ภายใน 5 ปีข้างหน้า โดยในจำนวนนี้ จะพัฒนาให้เป็นผู้เชี่ยวชาญและนักพัฒนา AI รวมทั้งสิ้น 140,000 คน
　ประเทศไทยเองก็กำลังมุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านจากประเทศรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศรายได้สูง และมีเป้าหมายที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิก OECD ในกระบวนการดังกล่าว นายมาริษกล่าวว่า "ประเทศไทยถือว่าญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรที่ไว้วางใจได้มากที่สุด" พร้อมแสดงความตั้งใจที่จะเสริมสร้างความร่วมมือทั้งด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น


IVL ของไทย เข้าลงทุนใน EPL บริษัทบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ของอินเดีย

　อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านปิโตรเคมีของไทย ได้เข้าซื้อหุ้นจำนวน 24.9% ในบริษัท EPL ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ชนิดพิเศษซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย โดยมูลค่าการเข้าซื้ออยู่ที่ประมาณ 7.4 พันล้านบาท (ประมาณ 32.5 พันล้านเยน) การลงทุนครั้งนี้ถูกวางให้เป็นการลงทุนหลักในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ IVL ให้ความสำคัญ
　EPL เป็นผู้นำระดับโลกในตลาดหลอดลามิเนต มีฐานการผลิต 21 แห่งใน 11 ประเทศ และมีพนักงานมากกว่า 3,500 คน จุดแข็งของบริษัทอยู่ที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงความยั่งยืนและการขยายธุรกิจในระดับสากล ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ทางธุรกิจของ IVL
　IVL ได้ดำเนินการฐานการผลิตในอินเดียแล้วทั้งหมด 7 แห่ง ครอบคลุมการผลิตเรซิน PET, เส้นใยโพลีเอสเตอร์, ผ้าไม่ถักทอ และผลิตภัณฑ์อนุพันธ์จากเอทิลีนออกไซด์ อีกทั้งยังมีแผนจะเปิดโรงงานรีไซเคิล PET เพิ่มอีก 2 แห่งภายในปีนี้ โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะใช้ประโยชน์จากฐานธุรกิจเหล่านี้ในการสร้างการเสริมพลัง (synergy) ในด้านบรรจุภัณฑ์
　การเข้าลงทุนครั้งนี้ นอกจากมีเป้าหมายเพื่อกระจายแหล่งรายได้และเสริมความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายซัพพลายเชนระดับโลกของ IVL แล้ว ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตของรัฐบาลอินเดีย และการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย ถือเป็นการเร่งขยายธุรกิจของ IVL ในตลาดอินเดียที่มีการเติบโตสูงอย่างชัดเจน